เพราะเหตุใด โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ประกาศการันตีแน่ชัดแล้วว่า พวกเขาได้ขาย เจดอน ซานโช่ ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เพราะเหตุใด นี่เป็นดีลที่ใช้เวลาและก็บ่อนทำลายความรู้สึกของแฟนปีศาจร้ายแดงมาอย่างช้านาน ร่วมๆ2 ปีที่จำเป็นต้องอ่านข่าวสารต่างๆแต่ว่าก็ปราศจากความขยับเขยื้อนที่แจ่มแจ้งจริงๆสักครั้ง กระทั่งในที่สุด 1 เดือนกรกฎาคม 2021 ทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จจนได้ …
ก่อนที่จะถึงวันนี้ กำเนิดอะไรขึ้นบ้าง รวมทั้งสิ่งใดที่ทำให้ดีลระหว่าง ซานโช่, ดอร์ทมุนด์ และก็ ยูไนเต็ด ใช้เวลานานได้ขนาดนี้ ? พวกเขาทำพลาด
เพราะเหตุใดจำเป็นต้อง ซานโช่ ?
เพราะอะไรกลุ่มอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องตามขอคืนดีนักฟุตบอลผู้เดียว ? เว้นแต่ เจดอน ซานโช่ ไม่มีตัวเติมเกมรุกจากฝั่งขวาหรือตัวรุกขอบเส้นอื่นๆแล้วหรือที่พวกเขาสามารถหามาตอบแทนได้ ? … ประเด็นนี้มีคำตอบ
เรื่องทั้งผองเป็นปรัชญาสมาคม แล้วก็ปรัชญาของการซื้อตัวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด … สื่ออังกฤษอย่าง The Mirror เคยเขียนเนื้อหาของบทความเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า กฎของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ในแต่ละปีนั้นง่ายสุดๆ เป็นทุกปีการประลอง พวกเขาต้องมีถ้วยแชมป์ติดไม้ติดมือสักถ้วย ถ้วยใดก็ได้ จะ เอฟเอ คัพ หรือ ลีก คัพ ที่เป็นถ้วยเล็ก โน่นก็นับได้ว่าเป็นปีที่บรรลุเป้าหมายแล้ว
ข้างหลังหมดยุคหมดสมัย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รวมทั้งก่อนมาถึงการควบคุมกลุ่มของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีเพียงแค่ เดวิด มอยส์ รายเดียวแค่นั้นที่ไม่อาจจะพาทีมได้แชมป์ได้ (หมดลุ้นทุกถ้วยในช่วงฤดูกาล 2013-14 ตั้งแต่เวลารุ่งสาง
กระทั่งคุมกลุ่มไม่จบฤดู) ที่เหลืออีก 2 คน อย่าง หลุยส์ ฟาน กัล แล้วก็ โชเซ่ มูรินโญ่ แม้ว่าจะเป็นผู้จัดการทีมที่แฟนบอลไม่รักสักเท่าไหร่ ด้วยเหตุว่าทำทีมด้วยสไตล์ที่น่ารำคาญ เล่นเกมรับ ไม่ถูกจากธรรมชาติที่แฟนคลับเคยชิน แต่ว่าพวกเขาก็ยังเอาอย่างปรัชญาการบรรลุเป้าหมายของสมาพันธ์ได้ด้วยโทรฟี้แชมป์เมื่อจบฤดู
จนตราบเท่ามาถึงสมัยของ โซลชา ที่แฟนบอลรักตั้งแต่ยังเป็นนักฟุตบอลของกลุ่ม เพราะว่าเคยฝากประตูหลักๆกระทั่งบันดลแชมป์ให้กลุ่มได้มากมาย เมื่อเขาได้เข้ามาคุมบังเหียน กลุ่มปีศาจแดงที่แฟนบอลเกือบจะหมดเชื่อถือ
จากสมัยของ ฟาน กัล และก็ มูรินโญ่ เปลี่ยนมาเป็นกลุ่มที่เล่นสนุกสนาน และก็ได้อรรถรสสำหรับการรับดูราวกับย้อนยุคกลับไปเมื่อสัก 10 ปีกลาย
มั่นใจว่าแม้ผู้ใดกันแน่ที่เป็นแฟนบอลของ ยูไนเต็ด คงจะรู้สึกถึงความไม่เหมือนของกลุ่มในสมัย โซลชา กับสมัย ฟาน กัล แล้วก็ มูรินโญ่ ก้าวหน้า นี่เป็นกลุ่มที่เล่นเกมรุกได้สนุกสนานขึ้นแจ่มชัด แต่ว่าอย่างเดียว
ที่ยังส่งผลให้แฟนบอลเสียงแตกหนุ่มภายใต้การควบคุมกลุ่มของ โซลชาเป็น”งามแต่ว่ารูปจูบไม่หอม” พูดอีกนัยหนึ่งเขาไม่สามารถที่จะจบฤดูด้วยการเป็นแชมป์ได้ … แล้วก็นี่เป็นผลที่สำคัญที่สุดของบอล ถ้าเกิดคุณทำทีมมิได้แชมป์ ไม่แปลกเลยที่คุณจะโดนวิภาควิจารณ์
ด้วยเหตุผลดังกล่าวสิ่งที่ โซลชา อยากได้ เป็นการร้องขอทรัพยากรที่เหมาะสมกับกลุ่ม ไม่ใช่แค่นักฟุตบอลใหม่ แต่ว่ารวมทั้งการเลือกเฟ้นพนักงานให้เหมาะสมกับงานทั้งยังในตำแหน่งสตาฟฟ์ผู้ฝึกสอน กลุ่มพินิจพิจารณาการค้าขาย
แล้วก็คณะทำงานสถานที่ทำงานในระบบอติดอยู่เดมี เพื่อต้นเหตุทั้งปวงนี้กลายเป็นผลที่สำคัญที่สุดของโลกบอลโน่นเป็น “ถ้วยแชมป์”
“พวกเรามีวิสัยทัศน์รวมทั้งปรัชญาสำหรับในการคัดเลือกนักฟุตบอลอย่างเห็นได้ชัด พวกเราพร้อมลงทุนครั้งสำคัญ และก็ทำมาแล้วในตอนไม่กี่ปีที่ล่วงเลยไป ได้แก่การตั้งเจ้าหน้าที่ด้านกลุ่มพินิจพิจารณา การผลิตเพิ่มผู้ที่มีความเชี่ยวชาญใน
ระบบอติดอยู่เดมี่ ซึ่งผมมีความคิดว่ามันเริ่มได้ได้ผลชัดขึ้นแล้ว” เอ็ด วู้ดเวิร์ด ซีอีโอ ของกลุ่มกล่าว
“พวกเราได้เห็นทีมที่เล่นเกมเร็ว ลื่นไหล และก็เป็นบอลที่เน้นย้ำเรื่องเกมรุกโดยเชื่อมโยงกับนักฟุตบอลที่ผลิตจากอค้างเดมีของกลุ่ม รวมทั้งการเสริมกลุ่มด้วยนักฟุตบอลสุดยอด แน่ๆจุดหมายมากที่สุดของพวกเราเป็นถ้วยรางวัล”
นี่ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเท่าไรนัก เนื่องจากว่านักฟุตบอลที่ ยูไนเต็ด ซื้อเข้ามาในสมัยของ โซลชา มีนักฟุตบอลซึ่งสามารถใช้งานได้และก็ส่งผลเสียในทางบวกกับกลุ่มทั้งนั้น แดเนี่ยล เจมส์, แอรอน วาน บิสซาก้า และก็ แฮร์รี่ แม็คแกว่งไกวร์
ในตลาดจำหน่ายแรกของ โซลชา ตามมาด้วย เอดินสัน คาวานี่ ในตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนครั้งลำดับที่สอง ดูเหมือนจะมีเพียงแค่ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ผู้เดียวเพียงแค่นั้น ที่เป็นนักฟุตบอลซึ่งมิได้ใช้งานครบถ้วน
จะมองเห็นได้ว่าการซื้อนักฟุตบอลกลุ่มนี้เข้ามาเสริม เมื่อรวมกับปรัชญาการใช้นักฟุตบอลแคว้นอย่าง ดีน เฮนเดอร์สัน, สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์, อักเซล ทวนเซเบ้, เมสัน กรีนวู้ด รวมทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับปรัชญากระบวนการทำกลุ่มของยูไนเต็ดทั้งผอง
ติดอยู่สิ่งเดียว มันยังไม่ดีพอที่จะก่อให้กลุ่มเป็นแชมป์ได้ รวมทั้งในตำแหน่งขอบเส้นฝั่งขวาเป็นจุดบอดครั้งใหญ่ที่พวกเขาตามหามานาน และก็คนๆนั้นควรจะเป็น เจดอน ซานโช่ … เพราะเหตุใดควรจะเป็นเขาแค่นั้น ?
ซานโช่ เป็นนักฟุตบอลที่ตรงตามปรัชญาของการเสริมกองทัพของ แมนฯ ยูไนเต็ด หลายข้อมากมาย อายุยังน้อย พัฒนาต่อได้อีกมากมาย มีเชื้อชาติอังกฤษ แล้วก็เป็นนักฟุตบอลที่ทัศนคติดี มีความทะยานอยาก
แล้วก็สำคัญที่สุดเป็น จากสิ่งที่ ซานโช่ ชี้ให้เห็นตอนเล่นให้กับ ดอร์ทมุนด์ มันกระจ่างว่าเขาเป็นผู้ที่โซลชาต้องการให้มาอยู่ในกลุ่ม “เร็ว แล้วก็ ทรงประสิทธิภาพ (Pace & Power) พวกเราเล่นเกมบุกด้วยความรวดเร็ว นี่เป็นปรัชญาแนวทางการทำกลุ่มของผม” นี่เป็นสิ่งที่ โซลชา เคยบอก บ้านผลบอลพรุ่งนี้
ตั้งแต่แมื่อย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในปี 2017 ซานโช่ ยิงไป 50 ประตู รวมทั้งทำไปอีก 64 แอสซิสต์ พูดได้ว่าเขาเป็นนักฟุตบอลที่มีคุณภาพอีกทั้งในด้านของกรรมวิธีเล่นและก็ผลสรุป
ด้วยเหตุดังกล่าวมันก็เลยสำคัญมากๆที่ ยูไนเต็ด ในมือของ โซลชา อยากได้นักฟุตบอลที่บันดลผลได้ เพื่อกลุ่มกลับมาสู่ปรัชญาของสมาพันธ์อีกรอบโน่นเป็น “ถ้วยแชมป์”
แต่ อย่างที่ทุกคนรู้กัน 2 ปี ที่ ยูไนเต็ด ไล่ล่า ซานโช่ นี่เป็นในเวลาที่นานนมในการค้าขายสักดีล จนกระทั่งขนาดที่ว่า โซลชา และก็ แมนฯ ยูไนเต็ด ชอบโดนล้อเลียนถึงสิ่งที่จำเป็นที่เขามีต่อซานโช่อปิ้งช้านานแต่ว่าไม่ประสบผลสำเร็จสักครั้ง
ถ้าหากพวกเขาอยากได้จริง ทำไม่ทุ่มซื้อแต่เดิมให้จบๆไป จะได้วัดกันให้รู้ดำรู้แดงว่าเขาจะช่วยสร้างผลที่กลุ่มรอได้หรือเปล่า ? คำตอบเป็นเรื่องมันยากแล้วก็สลับซับซ้อนกว่าที่คนไม่ใช่น้อยรู้เรื่อง แล้วก็นี่เป็นเบื้องหน้าเบื้องหลังบางขั้นตอน เท่าที่มีการเปิดเผย
พร้อมขาย ถ้าเกิดได้ราคามากพอ
“การย้ายกลุ่มจะต้องเป็นช่วงที่ความสำราญและก็ความระทึกใจ แต่ว่าผมไม่เคยเบื่อกับการย้ายกลุ่มในชีวิตมากมายขนาดนี้เลย มันมาถึงจุดที่ผมมีความคิดว่าเขาเซ็นสัญญาไปแล้วด้วย แล้วก็ผมต้องการทราบว่าคนใดกันแน่จะเป็นรายถัดไปแล้ว
” แกปรี่ เนวิลล์ บอกอย่างงี้เมื่อนับเป็นเวลาหลายวันก่อน ก่อนที่จะ ฟาบริสิโอ โรมาโน่ ผู้สื่อข่าวมือ 1 ที่สมัยจะใช้คำว่า Here We Go ในดีลนี้ ซึ่งแสดงว่า “จบดีลเป็นระเบียบเรียบร้อย”
ไม่ใช่แค่ เอ็งปรี่ เนวิลล์ ที่เบื่อ ผู้คนจำนวนมากก็รู้สึกอย่างงั้น ด้วยเหตุว่าเรื่องราวระหว่าง ซานโช่ แล้วก็ ยูไนเต็ด มันกินเวลาเหลือเกิน แต่ว่าเหตุทั้งหมดทั้งปวงมันก็เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ประเทศ และก็เหตุการณ์ของโลกบอลที่เปลี่ยนไปด้วย
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นกลุ่มที่พร้อมจะขายนักฟุตบอลที่เหมาะสมที่สุดของกลุ่มเสมอเพื่อรักษาตัวเลขในบัญชีของพวกเขาให้เป็นสีเขียวถัดไป พวกเขาเป็นกลุ่มหวานใจษาสมดุลจำนวนในบัญชีของสมาคมเจริญมากมายๆแม้กระนั้นข้อเท็จจริงลึกไปกว่านั้นหมายถึงพวกเขาเขี้ยวลากดิน และก็จะไม่ยินยอมปลดปล่อยให้นักฟุตบอล
ซึ่งเปรียบเหมือนสินค้าหลักของพวกเขาให้ผู้ใดถูกๆนอกเสียจากจะได้ราคาที่สมควร หรือจนถึงที่นักฟุตบอลคนนั้นออกปากแล้วก็ออกอาการ “ไม่ต้องการที่จะอยู่กับกลุ่มแล้ว” ให้มองเห็น
แบบอย่างที่แจ่มกระจ่างที่สุด เป็นยุคที่เสีย มาริโอ เกิตเซ่ เพชรเม็ดสวยของพวกเขาให้กับคู่แข่งขันอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2013 ในช่วงเวลานั้น ดอร์ทมุนด์ ต้องการจะได้ราคามากยิ่งกว่า 40 ล้านยูโร
แม้กระนั้นพวกเขาก็ทำไม่ได้ ด้วยเหตุว่านักฟุตบอลออกอาการกระจ่างแล้วว่า “ต้องการย้ายกลุ่ม” ท้ายที่สุดพวกเขาก็ยอมแพ้ปล่อยไปในราคาถูกยิ่งกว่าที่คิดไว้ในตอนแรก
“เขาย้ายออกเพราะเหตุว่าเขาเป็นนักฟุตบอลคนโปรดของ (เป๊ป) กวาร์ดิโอล่า ถ้าหากจะหาคนผิด ก็คงจะเป็นผมเอง ผมประพฤติตัวเตี้ยลง รวมทั้งกล่าวภาษาประเทศสเปนมิได้” นี่เป็นสิ่งที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมของกลุ่มณ เวลานั้นเห็นด้วยเรื่องจริง
ช่วงเวลาที่ต่อจากนั้นไม่นาน รวมทั้งเป็นดีลซึ่งสามารถชูเอาเปรียบเทียบในเคสของ ซานโช่ กับ ยูไนเต็ด ได้ เป็นการซื้อ-ขาย เฮนริค มคิตาร์ยาน มิดฟิลด์ชาวอาร์เมเนียนของ ดอร์ทมุนด์ ที่ ยูไนเต็ด สามารถปิดดีลได้ในราคาสุดถูก
เพียงแค่ 26 ล้านปอนด์แค่นั้น โดยการค้าขายของ มคิตาร์ยาน เองก็เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากตัวนักฟุตบอลมีความคิดว่าถึงเวลาที่เขาจะย้ายออกจากกลุ่มแล้ว ด้วยเหตุว่าอยากโตกว่านี้ ทั้งยังในด้านของบอล รวมทั้งด้านรายได้ที่ ยูไนเต็ด มอบให้เขามากยิ่งกว่ายุคที่อยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ถึง 3 เท่า
แต่ว่ากับ ซานโช่ ไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวมา ตัวนักฟุตบอลแฮปปี้กับเหตุการณ์ในกลุ่มดอร์ทมุนด์ สนุกสนานที่ได้เล่นบอลในฐานะ “คนสำคัญของกลุ่ม” ภายหลังย้ายมาจากกลุ่มเยาวชนของ แมนฯ ซิตี้
คุณจะดูได้เลยว่า นับจาก ยูไนต็ด มีข่าวสารมหากาพย์การย้ายกลุ่มกับ ซานโช่ ตัวนักฟุตบอลไม่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ในทางลบ และก็ยังรวมทั้ง อีเมกา โอบาซี่ เอเยนต์ของเขาก็ไม่เคยออกข่าวสารยุยงปลุกปั่นให้ ดอร์ทมุนด์ จะต้องอึดอัดใจเลยแม้แต่น้อย นอกจากนั้น ซานโช่ ก็ย้ำมาตลอดว่าเขาบันเทิงใจกับชีวิตที่เยอรมันเป็นอันมาก https://www.fantasyref.com/