หงส์แดง พบงานหนักในแมตช์เยี่ยม เชลซี เมื่อ 3 นักฟุตบอลกำลังสำคัญติดโควิดเป็นระเบียบเรียบร้อย และก็อยู่ในตอนกักบริเวณ ในตอนที่ พบร์เก้น คล็อปป์ ก็ดวงแตกติดเชื้อโรคดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วเหมือนกัน ทำให้หมดสิทธิ์คุมผู้ร่วมทีมในเกมสำคัญนี้
หงส์แดง ชมรมขวัญใจคนท้องถิ่นที่ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ การันตี อลิสซง เบ็คเกอร์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และก็ โฌแอล มาติป หมดสิทธิ์ลงในสนามในเกมเยี่ยม เชลซี เพราะอีกทั้งสามคนส่งผลตรวจเป็นบวกจากการรับเชื้อเชื้อไวรัสโควิด-19
“ลิเวอร์พูล” จะต้องพบกับเหตุการณ์ตกอับสำหรับในการบุกถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ วันอาทิตย์ที่ 2 เดือนมกราคมนี้ เมื่อสามนักฟุตบอลกำลังสำคัญ ไม่สามารถที่จะลงสู่สนามช่วยสังกัดเดิมได้เหตุเพราะติดเชื้อโรคเชื้อไวรัสมรณะ รวมทั้งจำต้องกักบริเวณในทันที
นอกเหนือจากนั้นสาวก “เดอะ ค็อป” ยังชอบใจหายเมื่อ พบร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ก็ติดเชื้อโควิดด้วย ทำให้หมดสิทธิ์ที่จะลงปฏิบัติภารกิจคุมสมาชิกในแมตช์สำคัญนี้ และก็มอบหมายให้ เปปิน ลินเดอร์ส มือขวา คุมกองทัพแทน
ดังนี้ หงส์แดง รั้งอยู่ชั้น 3 ในตารางลีก โดยแม้พวกเขาชนะ เชลซี จะก่อให้แต้มขยับตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหลือ 9 คะแนน และก็แข่งขันน้อยกว่า 1 แมตช์ แต่ว่าถ้าเกิดแพ้งานนี้ “เดอะ เร้ดส์” ตามหลังไกลสุดกู่ถึง 12 คะแนนอย่างยิ่งจริงๆ
อลีสซง เติบโตมาในครอบครัว “ผู้รักษาประตู” อย่างแท้จริง ไล่ตั้งแต่รุ่นปู่ทวด ซึ่งเป็นโกล์ให้กับชมรมแคว้น ส่วนคุณพ่อ แม้จะมิได้เล่นบอลอาชีพเอาจริงเอาจัง แต่ว่าเวลาเล่นบอลกับเพื่อนฝูงๆก็ชอบไปยืนเฝ้าเสาให้กับกลุ่มเสมอ ในช่วงเวลาที่ม่าม้าเล่นเป็นผู้เฝ้าประตูในกีฬาแฮนด์บอล
เหตุนี้เอง ทำให้ อลีสซง และก็พี่ชาย มูเรียล เบ็คเกอร์ ซึ่งแก่กว่าโดยประมาณ 5 ปี ประทับใจการเล่นในตำแหน่งผู้เฝ้าประตู แล้วก็สองญาติคู่นี้ก็ได้เริ่มทางลูกหนังด้วยการเข้าสู่อค้างเดมี่ของ “อินเตอร์ทุ่งนาสิอองทุ่งนาล” สมาพันธ์ยักษ์ใหญ่ที่แดนแซมบ้า
ต่อไป “พี่น้องเบ็คเกอร์” ก็พัฒนาฝีมือขึ้นมาเป็นลำดับ รวมทั้งได้ขึ้นมาเล่นในกลุ่มชุดใหญ่ของชมรม โดย มูเรียล ถูกดันขึ้นมาเล่นก่อนที่จะน้องชายอย่าง อลีสซง จะก้าวขึ้นสู่กลุ่มชุดใหญ่ในเวลาถัดมา และก็โน่นทำให้เขาทั้งสองมีสถานะแปลงเป็น “คู่แข่ง” ที่ต้องแก่งแย่งตำแหน่งมือชั้นยอดลงเฝ้าเสาให้กับกลุ่ม
แน่ๆว่าด้วยอายุแล้วก็ประสบการณ์ที่มากกว่าทำให้ มูเรียล ยึดตำแหน่งมือชั้นยอดเหนือน้องชาย แต่พอเพียงเวลาผ่านไป อลีสซง ก็ได้รับจังหวะเยอะขึ้นเรื่อยๆเป็นลำดับกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นมือชั้นยอดของกลุ่มในปี 2015 และก็โชว์ฟอร์มสะดุดตากลายเป็นเป้าหมายที่ชมรมดังในยุโรปมีความสนใจ ซึ่งในที่สุด “หมาป่าที่กรุงโรม” โรม่า ก็ซื้อ 7.5 ล้านยูโร ลากตัว อลีสซง มาฝ่าเวทีเซเรียอา อิตาลี ในเดือนกรกฏาคม 2016
ในปีแรกที่ย้ายมายังโรม่า อลีสซงรับบทผู้เล่นสำรองของ วอยเซียก เซสนี่ จอมหนึบกลุ่มชาติโปแลนด์ แต่ว่าก็ได้ลงโชว์ความสามารถในเกมบอลถ้วยต่างๆเป็นปริมาณ 15 นัดหมายในช่วงฤดูกาล 2016-2017 หลังจากนั้นฤดูกาลถัดมา เซสนี้ย้ายไปอยู่กับยูเวนตุส อลีสซงก็เลยก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งมือชั้นยอดของโรม่าโดยทันที พร้อมทั้งทำผลงานสุดเหนียวหนึบ จนได้รับเลือกให้เป็นผู้เฝ้าประตูเยี่ยมที่สุดของเซเรียอา ฤดู 2017-2018
“เขาเป็นผู้เฝ้าประตูที่ฉลาดสุดๆและก็สามารถคาดคะเนการเคลื่อนที่ของศัตรูได้อย่างดียิ่ง เขาบางทีก็อาจจะไม่จำเป็นที่ต้องโชว์ลูกเซฟน่าพิศวงอะไร เพราะเหตุว่าการยืนตำแหน่งของเขานั้นดีเลิศๆ” บรูโน่ คอนติเตียน ตำนานแข้งโรม่า และก็กลุ่มชาติอิตาลี ชุดแชมป์โลก 1982 กล่าว เกตาเฟ่หมดสติ
และก็ด้วยฟอร์มอันเปรี้ยงปร้างนี่เอง ทำให้ “ลิเวอร์พูล” หงส์แดง เดินหน้ากระชากตัว อลีสซง เข้ามาเฝ้าเสาในถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อเดือนกรกฏาคม 2018 ด้วยค่าตอบแทนมากถึง 67 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติผู้เฝ้าประตูค่าจ้างแพงที่สุดในโลกในเวลานั้น ก่อนที่จะ เกขว้าง อาร์ริซาบาลาก้า จะทำลายสถิติดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ข้างหลังย้ายจาก แอธเลว่ากล่าวก บิลค่อย ไปยัง เชลซี ด้วยค่าจ้าง 71.6 ล้านปอนด์ในเดือนถัดมา
ดังนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ หงส์แดง ทุ่มเงินก้อนโตสำหรับตำแหน่งผู้เฝ้าประตู เพราะฤดูกาลก่อนหน้านั้น พวกเขาอกหักพลาดแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จากความบกพร่องของ ลอริส คาริอุส ส่วนตัวสำรองอย่าง ซิมง ไม่โญเลต์ ก็ยังวางใจมิได้เท่าที่ควร
แล้วก็ท้ายที่สุดการมาของ อลีสซง ก็เป็นการขจัดปัญหาที่ตรงจุดของผู้จัดการทีมฟุตบอล พบร์เก้น คล็อปป์ เพราะว่าจอมหนึบเลือดแซมบ้ารายนี้โชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยมรวมทั้งเป็นเลิศในคีย์แมนที่ช่วยให้ หงส์แดง ผงาดแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในช่วงฤดูกาล 2018-2019 พร้อมทั้งเอารางวัลศักดิ์ศรีส่วนตัวมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรางวัลผู้เฝ้าประตูเยี่ยมที่สุดของสมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติ แล้วก็รางวัล “ยาชิน โทรฟี” ปี 2019 จากนิตยสารฟรองซ์ บอล ซึ่งอาจเทียบได้กับ “บัลลงดอร์” ของผู้เฝ้าประตูอย่างไรยังงั้น