แฟนบอลหลายรายเฉ่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ที่แปลงเอา เจสซี่ ลินการ์ด ลงไปแทน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เฉย
แฟนบอลหลายรายเฉ่ง ระหว่างเกม ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป เอฟ นัดหมายที่ “ปีศาจแดง” แพ้ ยัง บอยส์ 1-2 เมื่อวันอังคารที่ 14 เดือนกันยายน ก่อนหน้าที่ผ่านมา ในนัดหมายดังที่กล่าวถึงมาแล้ว โซลชา เลือกที่จะส่ง ลินการ์ด ลงไปแทน โรนัลโด้ ในตอนนาทีที่ 72 ทั้งๆที่ในเวลานั้นสกอร์เท่ากันอยู่ที่ 1-1
ก่อนที่จะในที่สุดกลุ่มเยือนจะเสียประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษเจ็บจากความบกพร่องของ ลินการ์ด กระทั่งทำให้พวกเขาจำเป็นต้องกลับไปอยู่บ้านแบบมือเปล่าตั้งแต่ครั้งแรกในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้ กำลังเดินหน้า
สำหรับความคิดเห็นของแฟนบอลนั้นมีตัวอย่างเช่น “นี่จะถูกจารึกให้ยอดเยี่ยมสำหรับในการสลับตัวที่ห่วยแตกที่สุดของพวกเราในประวัติศาสตร์ของแชมเปี้ยนส์ลีก และก็ในประวัติศาสตร์ของสมาคมแน่ๆ”, “โอเล่ แทนที่ โรนัลโด้ ด้วย ลินการ์ด ซึ่งเป็นผู้ที่ในที่สุดแล้วผ่านบอลให้ ยัง บอยส์ ทำแต้มชัยได้”,
“แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกำลังปรารถนาชัย และก็ โอเล่ ก็เอา โรนัลโด้ ออกพร้อมทั้งส่ง ลินการ์ด ลงไป อ่านประโยคนั้นอีกทีสิ ถ้านี่มิได้เป็นหลักฐานที่แสดงให้พวกนายมีความเห็นว่า โอเล่ ทึ่มเพียงใดแล้วล่ะก็ ฉันก็ไม่รู้เรื่องอีกแล้วว่าจะมีหลักฐานอันไหนที่ดีไปมากกว่านี้”
รวมทั้ง “โอเล่ ส่ง ลินการ์ด มาแทน โรนัลโด้ ขณะที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด กำลังอยากได้ประตูเพื่อชนะ แล้ว ลินการ์ด ก็มาผ่านบอลให้ ยัง บอยส์ ทำคะแนนชัยได้” ฯลฯ
แฟนบอลหลายรายเฉ่ง ย้อนอดีต แมนยูไนเต็ดแพ้เปิดหัวใน ชปล.
แฟนบอลหลายรายเฉ่ง นับได้ผลการประลองที่พลิกล็อกอย่างยิ่งกับการที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งอุดมไปด้วยนักฟุตบอลชั้นยอดเยี่ยม แถมยังนำกองทัพโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จำเป็นต้องหัวคะมำตั้งแต่การลงเล่น ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรกของฤดูนี้
แฟนบอลหลายรายเฉ่ง จากการที่พวกเขาออกไปแพ้ ยัง บอยส์ กลุ่มของลีกประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 1-2 สำหรับเพื่อการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป เอฟ เมื่อวันอังคารที่ 14 ก.ย. ก่อนหน้าที่ผ่านมา แน่ๆว่ามันยังเป็นเพียงแต่การลงเล่นครั้งแรก
กระทั่งทำให้จัดว่าเร็วเกินความจำเป็นที่จะกล่าวได้ว่าในที่สุดแล้วทางของ “ปีศาจแดง” กับการเล่นถ้วย “บิ๊กเอียร์” ในฤดูกาลนี้จะเป็นอย่างไร แม้กระนั้นอีกแง่หนึ่งมันก็สามารถบอกได้ว่าการออกสตาร์ตที่ชั่วร้ายนั้นจะมีผลกับการเล่นในอีก 5 เกมที่เหลืออย่างไม่ต้องสงสัย
เนื่องจากแมนยูไนเต็ด อาจไม่สามารถพลาดได้อีกแล้ว จะว่าไปแล้วแท้จริงนี่ก็ไม่ใช่หนแรกที่แมนยูไนเต็ด แพ้ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ตั้งแต่ครั้งแรกของรอบแบ่งกลุ่ม นับจากที่มันมีการแปลงจากชื่อ ยูโรเปี้ยน คัพ มาเป็นชื่อแชมเปี้ยนส์ลีก แบบเดียวกัน
ย้อนกลับไปเมื่อฤดู 1996-97 ในตอนนั้น แมนยูไนเต็ดภายใต้กระบวนการทำกลุ่มของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพิ่งจะซิวแชมป์ลีกในฤดูกาล 1995-96 มาครอบครองได้ภายหลังที่เมื่อ 1 ฤดูก่อนหน้านั้นพวกเขาเสียแชมป์ให้กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ผลบอลสด7m
รวมทั้งในตอนซัมเมอร์ของปี 1996 แมนยูไนเต็ดก็ได้นักฟุตบอลอย่าง รอนนี่ ยอห์นเซ่น, คาเรล โพบอร์สกี้, โอเล่ กุนนาร์ โซลชา รวมทั้ง ยอร์ดี้ ครัฟฟ์ มาร่วมทัพอีก เมื่อนับรวมกับขุมกำลังที่มีอยู่แล้วอย่าง เอริก คันโตน่า, ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล, เดนิส เออร์วิน, ไรอัน กิ๊กส์, เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคลส์ อื่นๆอีกมากมาย แล้วนั้น
ทำให้ในช่วงเวลานั้น แมนยูไนเต็ดเป็นชุดที่ดูดีพอสมควร ซึ่งสำหรับการเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูนั้นพวกเขาก็โดนจับไปอยู่ในกรุ๊ป ซี ร่วมกับ ยูเวนตุส, เฟเนร์บาห์เช่ แล้วก็ ราปิด เวียนนา ครั้งแรกในถ้วยยุโรปของแม่ทัพ แมนยูไนเต็ดเป็นการไปเยือน สตาดิโอ เดลเล่ อัลปิ ของ ยูเวนตุส
แม้กระนั้นในที่สุดพวกเขาก็จำต้องกลับไปอยู่บ้านแบบมือเปล่าภายหลังที่แพ้ “เบียงโคเนรี่” 0-1 โดยประตูชัยของเจ้าถิ่นในเกมนั้นมาจากผลงานของ อเล็น บ็อคซิช หัวหอกชาวโครเอเชีย
ซึ่งเกมนั้น แมนยูไนเต็ดจัดชุดที่เหมาะสมที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ลงเล่นด้วย เพราะว่าใน 11 ตัวจริงมีทั้งยัง คันโตน่า, ชไมเคิ่ล, เบ็คแฮม, เออร์วิน, กิ๊กส์, เนวิลล์ ลงช่วยกลุ่ม แม้กระนั้นท้ายที่สุดก็ไม่บางทีอาจยับยั้งความยอดเยี่ยมของ ยูเวนตุส ได้
ภายหลังพ่ายตั้งแต่ครั้งแรก แมนยูไนเต็ดก็ยังแพ้ในรอบแบ่งกลุ่มอีก 2 ครั้งร่วมกัน
แฟนบอลหลายรายเฉ่ง นั่นเป็นการแพ้ เฟเนร์บาห์เช่ กับภาค 2 ที่พบ ยูเวนตุส โดยสกอร์ออกมาที่ 0-1 อีกทั้ง 2 เกม แถมยังเตะที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทั้งยัง 2 นัดหมายด้วย โชคดีที่สุดด้านหลังกลุ่มของ เฟอร์กูสัน ยังผ่านไปสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้จากการชนะ ราปิด เวียนนา 2-0 ในนัดหมายในที่สุด
แฟนบอลหลายรายเฉ่ง จนกระทั่งทำให้ด้อยกว่าแชมป์ของกรุ๊ป ในที่สุดแล้วฤดูนั้น แมนยูไนเต็ดก็ไปถึงรอบรองชนะเลิศ เพราะเหตุว่าในรอบ 8 กลุ่มในที่สุดพวกเขาผ่าน เอฟซี ปอร์โต้ ด้วยสกอร์รวม 2 นัดหมาย 4-0 แต่ว่าในรอบตัดเชือกไปแพ้ ดอร์ทมุนด์ ด้วยสกอร์ 0-1 ทั้งยังเหย้ารวมทั้งเยี่ยม
หลังจากนั้นมา แมนยูไนเต็ดก็ไม่แพ้คนไหนกันแน่ในครั้งแรกของรอบแบ่งกลุ่มในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก อีกเลย (นับเฉพาะรอบแบ่งกลุ่ม รอบแรก) จวบจนกระทั่งมาถึงฤดู 2015-16 ที่พวกเขาโดนจับไปอยู่ในกรุ๊ปเดียวกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น, เฟาเอฟแอล โวล์ฟส์บวร์ก แล้วก็ ซีเอสเคเอ มอสโก
ขณะนั้นแมนยูไนเต็ด อยู่ในมือของ หลุยส์ ฟาน กัล แล้วก็พวกเขาก็พึ่งจะได้สิทธิ์กลับมาเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ภายหลังที่ตอนฤดูกาล 2014-15 มิได้เล่นเกมถ้วยยุโรปเลย
โดยที่เวลานี้ “ปีศาจแดง” ได้นักฟุตบอลอย่าง เมมฟิส เดอปาย, มัตเตโอ ดาร์เมียน, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน, เซร์คิโอ โรเมโร่ แล้วก็ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล มาเสริมกองทัพ ส่วนนักฟุตบอลชุดเดิมที่เด่นๆก็มีอย่าง เวย์น รูนี่ย์, ดาบิด เด เคอา รวมทั้ง ไมเคิ่ล คาร์ริค แน่ๆ
ถ้าเทียบเคียงชื่อชั้นของกลุ่มนั้นการผ่านรอบแบ่งกลุ่มไม่น่าจะเป็นงานยากของ ฟาน กัล เลย กลับแปลงเป็นว่ากลุ่มของเขาเสียท่าตั้งแต่ครั้งแรกด้วยการออกไปแพ้ พีเอสวี 1-2 โดยวันนั้น แมนยูไนเต็ดนำก่อนจาก เมมฟิส เดอปาย ในนาทีที่ 41
ก่อนที่จะ พีเอสวี จะได้ประตูจาก เอ็คตอร์ โมเรโน่ ในช่วงต่อเวลาพิเศษเจ็บของครึ่งแรก และก็ ลูเซียโนาร์ นาร์ซิงห์ ในนาทีที่ 57 การออกสตาร์ตที่ตกอับในวันนั้นมีผลร้ายกับแมนยูไนเต็ด ในสุดท้าย เนื่องจากเปลี่ยนเป็นว่าพวกเขาได้เพียงแต่ชั้น 3 ของกรุ๊ป ด้วยผลงาน 8 คะแนนจากการลงเล่น 6 นัดหมาย
ทำให้กลุ่มของ ฟาน กัล จำเป็นต้องไม่เข้ารอบจากแชมเปี้ยนส์ลีก และก็ร่วงไปเล่นใน ยูฟ่า ยูโรปา ลีก แทน ร้ายยิ่งกว่านั้นเพียงพอจำเป็นต้องไปเล่นในรายการนั้นพวกเขาก็ไปไม่เข้ารอบ 16 กลุ่มในที่สุดด้วยความสามารถของ หงส์แดง ศัตรูตัวฉกาจอีก
ในเวลานี้มันก็ขึ้นกับเวลาแล้วที่จะให้คำตอบได้ว่า โซลชา คนที่นำแมนยูไนเต็ด แพ้ตั้งแต่ครั้งแรกของรอบแบ่งกลุ่มในแชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งที่ 3 นั้น จะพาทีมสิ้นสุดรอบนี้ได้ดังสมัยของ เฟอร์กูสัน หรือ ฟาน กัล กันแน่
https://www.sociaquarterhorses.com/